วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

เงินสี่ด้าน งานสี่แบบ



ธุรกิจ คือคำตอบของคนมองหาโอกาสให้ชีวิตและวันนี้ธุรกิจที่สร้างโอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ทุกคนเข้าถึงได้โดยไร้ข้อจำกัดคือ "ตลาดเครือข่ายNETWORK MARKETING"
นี่คือเอกสารหลักฐานบางส่วนที่ชี้ตรงกันว่า ตลาดเครือข่ายคือโอกาสของการเป็นเจ้าของกิจการ(business owner)


ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ระดับโลกต่างพูดถึงการตลาดเครือข่าย...?
Robert T.Kiyosaki:ผู้แต่งหนังสือพ่อรวยสอนลูก และหนังสือเล่มอื่นๆในชุดพ่อรวยฯ."คนรวยที่สุดในโลกมองหาวิธีการสร้างเครือข่าย ในขณะที่คนอื่นๆมองหางานทำ"..."ผมมักจะถูกถามว่า ทำไมจึงแนะนำผู้คนให้เข้าสู่ธุรกิจนี้ เหตุผลเพราะว่า ธุรกิจประเภทนี้เกิดขึ้นจากการกระตุ้นให้คนมีความใฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่ และสนับสนุนคนเหล่านั้นสร้างความฝันของพวกเขาให้เป็นจริงขึ้นมา"
Jim Dornan:ผู้ก่อตั้งNETWORK TWENTY ONEองค์กรณ์เครือข่ายที่มีสมาชิกทั่วโลกมากกว่า2.5แสนคน"...การค้าใหม่ในยุคศตวรรษที่21"
Donald Trump:มหาเศรษฐีหลายหมื่นล้านเหรียญอเมริกา&Robert T.Kiyosaki"...Why we recommend Network Marketing."
บิลล์ คลินตัน:อดีตประธานาธิบดีอเมริกา"...Clinton Endorses Network Marketing"
ดั๊ก วีด:อดีตที่ปรึกษาพิเศษของ ประธานาธิบดี จอร์จ บุช ในทำเนียบขาว"...อย่าทำเป็นโง่ไปหน่อยเลย ธุรกิจนี้สามารถเป็นมากกว่าธุรกิจเล็กๆในละแวกบ้านเสียอีก ในธุรกิจเครือข่ายของผมเอง ผมได้สปอนเซอร์ผู้ว่าการรัฐคอนเนตติคัต ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ผู้เขียนคำปราศรัยที่ทำเนียบไวท์เฮาส์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี วุฒิสมาชิก รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ดาราภาพยนต์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศตุ๊กตาทอง และด้วยเหตุบังเอิญจริงๆ ผมก็ได้สปอนเซอร์เพื่อนบ้านด้วย ซึ่งตอนนี้เขาก็เป็นผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วย"

เงินสี่ด้าน-งานสี่แบบ


จากหนังสือ "พ่อรวย"สอนลูก"และ"โรงเรียนสอนธุรกิจ" :โรเบิร์ต คิโยซากิ

"...รายได้ของคุณมาจากด้านไหน ก็แสดงว่าคุณอยู่ในกลุ่มนั้น กล่าวคือ ถ้าคุณได้รับเงินเดือนจากการทำงานให้กับกิจการที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของ ก็แสดงว่าคุณมาจากด้าน E ไม่ว่าตำแหน่งของคุณจะเป็นภารโรงหรือประธานบริษัทก็ตาม ก็ล้วนแต่เป็นลูกจ้างด้วยกันทั้งนั้น คนเหล่านั้นชอบที่จะคิดและพูดว่า "ฉันต้องการหางานที่มีรายได้มั่นคง" หรือไม่ก็พูดว่า "เราได้ค่าล่วงเวลาเท่าไร" หรือ "มีวันหยุดกี่วัน

ถ้ารายได้ของคุณเป็นลักษณะของค่านายหน้า หรือคุณคิดค่าตัวของคุณเป็นรายชั่วโมงกับลูกค้า คุณก็อาจจะอยู่ในกลุ่ม S เช่นพวกตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์มักจะพูดว่า "เราคิดค่านายหน้า 6% จากราคาซื้อ" ส่วนพวกนักกฏหมายหรือแพทย์ที่คิดค่าใช้จ่ายกับลูกค้าเป็นรายชั่วโมง คนพวกนี้มันจะพูดว่า "เราคิดค่าปรึกษาชั่วโมงละ 50 เหรียญ" หรือไม่ก็พูดว่า "ผมคิดค่าใช้จ่ายสำหรับงานนนี้ 1000 เหรียญ" ผู้คนที่อยู่ในกลุ่ม S ยังหมายรวมถึงเจ้าของกิจการขนาดเล็ก เช่น เจ้าของร้านอาหาร กิจการในครอบครัว อาชีพที่ปรึกษา ผู้ให้บริการด้านการทำสวน การทำความสะอาดบ้าน คนเหล่านี้มักจะเป็นคนที่ชอบทำอะไรด้วยตัวเขาเอง พวกเขาจึงมักจะให้คำแนะนำกับคนอื่นว่า "คุณควรทำงานให้กับตัวเอง อย่าไปทำงานให้กับคนอื่นเลย"


ถ้าหากว่ารายได้ของคุณมาจากธุรกิจ โดยที่คุณไม่ต้องลงมือไปทำงานนั้นเอง คุณก็จัดในกลุ่ม B และถ้าหากรายได้ของคุณมาจากการลงทุน คุณก็อยู่ในกลุ่ม I ส่วนผู้ที่มีรายได้มาจากเงินบำนาญก็จะอยู่ในกลุ่ม E และบางคนก็อาจจะมีรายได้มาจากหลายๆด้าน พร้อมๆกันได้"

"ความแตกต่างระหว่างการทำงานด้านS กับด้านB คือคนที่อยู่ในด้านBสามารถที่จะปล่อยวางธุรกิจของเขาได้เป็นปี เมื่อเขากลับมา ธุรกิจนั้นก็ยังอยู่และยังอาจจะทำกำไรได้มากขึ้นอีกด้วย ส่วนคนที่ทำงานให้กับตัวเองหรือการเป้นเจ้าของกิจการขนาดเล็ก(S) จะไม่สามารถทิ้งกิจการของเขาไปได้ และส่วนใหญ่ถ้าคนเหล่านี้หยุดทำงาน รายได้จากกิจการของเขาก็จะหยุดตามไปด้วย"
...จากประวัติศาตร์ที่ผ่านมานั้น ด้าน"B"เคยเป็นอาณาจักรส่วนตัวที่สงวนไว้สำหรับคนรวยเท่านี้ ความจริงที่ยังไม่มีใครเปิดเผยก็คือ ผู้คนที่อยู่ในด้าน E และ S กำลังทำงานให้กับคนที่อยู่ในด้าน B นั่นเอง โรงเรียนทั่วไปสอนเราให้เป็นผู้ชำนาญการเพื่อไปทำงานในด้าน E และ S แต่ไม่ได้สอนให้เรารู้จักคิดสร้างธุรกิจในด้าน B แต่ปัจจุบันนี้"ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย"ได้ช่วยเปิดประตูนี้สำหรับทุกๆคน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยมาก่อน หรือเป็นคนที่ผ่านการศึกษาสูงๆซึ่งก็เพียงแค่สอนให้คุณเป็น E และ S ที่มีรายได้สูงขึ้นเท่านั้น"


การตลาดเครือข่าย Network Marketing
การตลาดเครือข่ายคืออะไร?
การตลาดเครือข่ายคือช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ ที่ผู้ผลิตกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค ผ่านองค์กรเครือข่ายผู้บริโภค แทนการผ่านระบบค้าส่งและค้าปลีกที่เป็นพ่อค้าคนกลาง เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่จะปรากฎชัดเจนในศตวรรษที่21นี้ องค์กรเครือข่ายดังกล่าว เกิดขึ้นจากการจัดตั้งของผู้บริโภค โดยผู้บริโภค และเพื่อผู้บริโภค เพราะผลตอบแทนที่ผู้ผลิตกระจายสินค้าผ่านระบบนี้ จะกลับคืนสู่ผู้บริโภคในเครือข่าย การจัดตั้งเครือข่าย จะมีระบบการจัดการ ที่สามมารถเลียนแบบทำซ้ำได้ผล เกิดเป็นตลาดเครือข่าย(Network Marketing)ขนาดใหญ่ และเรา(ผู้บริโภค)คือเจ้าของเครือข่าย โดยมีผู้ผลิตเป็นหุ้นส่วนจัดการสินค้าและจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน เป็นอุตสาหกรรมที่อิงอยู่กับพฤติกรรมหลักของผู้คน โดยเฉพาะคนไทยคือ"บริโภคนิยม"

ระบบจะมีวิธีการช่วยคุณสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ โดยมีองค์ความรู้ให้คุณศึกษาเลียนแบบและทำซ้ำ ระบบนี้เป็น Knowhowจากอเมริกา ผู้แนะนำได้ศึกษาเรียนรู้มากว่า 5ปี โดยกลไกของเครื่องมือในระบบ จะช่วยคุณค้นหาผู้สนใจและพัฒนาเขาเป็นผู้นำในเครือข่าย เมื่อเราสร้างผู้นำ ผู้นำสร้างผู้นำของผู้นำ ซึ่งผู้นำที่เราสร้างขึ้นมาจะเป็นคนด้าน"B" คือทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่า เมื่อเรามีคนฝั่งBมากพอ เครือข่ายก็จะเกิดMomentum องค์กรขับเคลื่อนแบบAutorun เราหยุดทำงาน แต่เครือข่ายยังขับเคลื่อนต่อไปเกิดรายได้แบบลิขสิทธิ์ คือรายได้จากทรัพย์สินที่เราสร้างคนฝั่ง"B"ไว้นั่นเอง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น