วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

เจริญโอสถฯรวยสวนวิกฤติ
















"เจริญโอสถฯ" จับทางถูก เปิดสงครามเครือข่ายมุ่งเน้นสร้างอาชีพที่เป็นไปได้ ทำง่ายที่สุด "รวยแล้วบอกต่อ" กระแสตอบรับพุ่งสวนกระแสทะลักกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อยอดขายพุ่งเดือนละกว่า 120-130 ล้านบาท "ดร.สมชาย หัชลีฬหา" ตอกย้ำ! ยุคนี้ไม่มีอาชีพอะไรจะสร้างความร่ำรวยให้กับคนทุกระดับชั้นได้ดีเท่าอาชีพเครือข่าย เพราะใช้เงินลงทุนไม่สูง เผยตัวเลขคนที่สำเร็จมีรายได้ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้านต่อเดือนมีเป็นหมื่นๆ คน เปิดมา 8 ปีจ่ายผลตอบแทนไปแล้วกว่า 2,400 ล้านบาท แถมชูพลูคาวแคปซูล สูตรเข้มข้นกว่าชนิดน้ำถึง 10 เท่า เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009
พูดไปใครจะเชื่อว่า ภาวะวิกฤติอย่างนี้ยังจะมีธุรกิจอะไรที่มียอดขาย "พุ่งทะยาน" แบบไม่หยุดยั้ง อย่างธุรกิจเครือข่ายหรือขายตรง หลายค่ายต่างก็พากันตีปีกฉีกรอยยิ้ม แบ่งเค้กก้อนใหญ่กันอย่างเมามัน
หนึ่งในนั้นถ้าไม่กล่าวถึงเห็นทีจะ "ตกกระแส" เพราะได้รับความสนใจอย่างมาก นั่นก็คือ บริษัท เจริญโอสถ อินเตอร์เนชั่นแนล เนทเวิร์ค จำกัด นั่นเอง ที่สร้างความแข็งแกร่งในยุทธจักรเครือข่ายมานานถึง 8 ปี จ่ายผลตอบแทนให้สมาชิกโดยรวมไปแล้วกว่า 2,400 ล้านบาทเห็นจะได้ ที่แน่ๆ บริษัทฯ นี้ได้พัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการเครือข่ายได้ลิ้มรสความแปลกใหม่ ล่าสุดยังได้รับโล่บริษัทดีเด่น ปี 2552 จาก "นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ในฐานะ "ผู้สร้างนวัตกรรมการตลาดแนวใหม่ ขายตรงสะดวกซื้อรายแรกของไทย" ที่สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนฯ จัดขึ้นเมื่อกลางปีที่ผ่านมา มีบริษัทเครือข่ายเพียง 3 รายเท่านั้นที่ได้รับเกียรติอันสูงสุดครั้งนี้ และหนึ่งในนั้น ก็คือ บริษัท เจริญโอสถฯ นั่นเอง
ดร.สมชาย หัชลีฬหา ประธานกรรมการ บริษัท เจริญโอสถ อินเตอร์เนชั่นแนล เนทเวิร์ค จำกัด เปิดเผย "ตลาดวิเคราะห์" ว่า นี่คือ รางวัลแห่งความสำเร็จของคนเครือข่ายทั้งประเทศ ที่ภาครัฐ และองค์กรสื่อมวลชนชั้นนำของประเทศให้การยอมรับกับอาชีพเครือข่ายมากขึ้น

"ผมได้คิดค้นนวัตกรรมการตลาดใหม่ๆ เพื่อนำเสนอต่อผู้บริโภคเพื่อให้เข้ามาทำอาชีพเครือข่ายที่ง่ายขึ้น ที่สำคัญ ผมได้สร้างหลักสูตรแห่งความร่ำรวยมารองรับคนไทยทั้งประเทศที่เดือดร้อนทางด้านการเงิน ต้องยอมรับว่าวิกฤติครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง เพราะลุกลามไปทั่วโลก เมื่อผู้คนในสังคมเดือดร้อน รัฐบาลเองก็ไม่สามารถเข้าไปเยียวยาได้ทันท่วงที เนื่องจากปัญหาการเมืองในปัจจุบัน และ ไข้หวัดใหญ่ 2009 คือตัวแปรสำคัญที่รัฐเองก็ยากที่จะแก้ปัญหาของประชาชนได้ ผมเองซึ่งเป็นภาคเอกชน ได้มองเห็นโอกาสในการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นภายในเวลาไม่นานนัก จึงได้วางทำโครงการให้ประชาชนมาฝึกทำอาชีพฟรี เรามีผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้อย่างใกล้ชิด พร้อมการันตีความสำเร็จขอเพียงเดินตามแผนการที่บริษัทวางไว้ก็พอ"
นับตั้งแต่เปิดบริษัทฯ มา สมาชิกที่มีรายได้ตั้งแต่หลักล้านบาทต่อเดือนมีกว่า 10 คน บางคนมีรายได้รวมทั้งหมดกว่า 70 ล้านบาท ส่วนสมาชิกที่มีรายได้ตั้งแต่ 2-3 แสนขึ้นไปมีเกือบ 100 คน ส่วนคนที่มีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 5 หมื่นขึ้นไปแต่ไม่เกิน 150,000 บาท มีไม่ต่ำกว่า 300 คน ขณะที่สมาชิกที่มีรายได้ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึง 5 หมื่นบาท มีจำนวนกว่า 1,000 คน และที่มีรายได้หลักพันถึงหลักหมื่นบาทต่อเดือนมีเป็นหมื่นๆ คน
"จะเห็นว่า สมาชิกใหม่ที่เข้ามาทำอาชีพเครือข่ายกับเจริญโอสถฯ อย่างจริงจัง เข้าอบรมตามหลักสูตรที่บริษัทกำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ และลงมือทำงานอย่างจริงจัง ใช้เวลาเพียง 3 เดือนก็จะมีรายได้หลักหมื่นขึ้นไป บางรายได้มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือนก็มี นี่คือ ความมหัศจรรย์ของอาชีพเครือข่าย ซึ่งใครๆ ก็ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด"
ดร.สมชายกล่าวอีกว่า ยิ่งวิกฤติอย่างนี้ทุกอาชีพคงไม่สามารถทุบสถิติเรื่องรายได้มากไปกว่าการทำอาชีพเครือข่ายแน่นอน ที่สำคัญ การลงทุนไม่สูง อย่างเจริญโอสถฯ ลงทุนเพียง 450 บาทก็สามารถเข้ามาฝึกอาชีพได้แล้ว แต่ตอนนี้เราฝึกอบรมให้ฟรี เพื่อต้องการให้ประชาชนมีโอกาสสร้างความสำเร็จให้กับตนเอง กล้าเดินเข้ามาศึกษา ทุกคนก็พร้อมจะนำพาความสำเร็จกลับไปแน่นอน
"ยิ่งมีคนสำเร็จในอาชีพนี้มากเท่าไหร่ ผมยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น คนเราถ้ามีรายได้มากขึ้น ครอบครัวก็อบอุ่นมีความสุข ปัญหาสังคมก็จะไม่เกิด ผมเองก็มีความสุขที่ได้เห็นสมาชิกมีรายได้กันทั่วหน้า บางคนในอดีตเคยกวาดขยะในกทม. พอเข้ามาทำอาชีพเครือข่ายกับเจริญโอสถฯ ยังไม่ถึง 2 ปี ปัจจุบันมีรายได้เดือนละเกือบ 2 แสนบาท แต่งตัวดีภูมิฐาน มีหลักการในการพูดคุย บางคนจบแค่ป.6 หลังเข้ามาทำอาชีพเครือข่ายกับเจริญโอสถฯ ได้ 5-6 ปี ปัจจุบันมีรายได้เดือนละกว่า 1 ล้านบาท มีบ้าน มีรถ มีสวนผลไม้นับร้อยๆ ไร่ อย่างนี้เป็นต้น"

ดร.สมชายกล่าวอีกว่า บริษัท เจริญโอสถฯ ได้นำกลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ในรูปแบบ "ขายตรงสะดวกซื้อรายแรกของไทย" มาใช้ในการทำตลาด จนเป็นที่กล่าวขานว่า นี่คือ นวัตกรรมการตลาดแห่งโลกอนาคต ซึ่งยังไม่มีใครทำได้ ในการที่จะนำระบบค้าปลีก ค้าส่ง ขายตรง แฟรนไชส์ เข้ามาอยู่ในระบบเดียวกันอย่างกลมกลืนและเหมาะสมกับภาวะการณ์ในปัจจุบัน
"เราเป็นขายตรงหนึ่งเดียว ที่มีสินค้ามากที่สุด คือ เกือบ 1 หมื่นรายการไว้ให้สมาชิกจับจ่าย มีสาขาทั่วประเทศกว่า 30 แห่ง ในรูปแบบร้าน "จอยมาร์ท" ถ้านึกไม่ออกให้นึกภาพถึงร้านเซเว่นฯ ก็แล้วกัน แต่การซื้อผ่านระบบของเราจะได้ผลตอบแทนกลับคืนไป ใช้ระบบออนไลน์ทั่วประเทศ จะเห็นว่า คนที่เข้ามาทำอาชีพเครือข่ายกับเรา จะทำงานไม่ยาก เพราะเรามีสินค้าบริการเกือบทุกชนิด แม้แต่สินค้าที่ค่ายอื่นมี เราก็มีเช่นกันแต่ขายในราคาถูกกว่า อย่างพลูคาวน้ำที่กระแสมาแรงมาก เพราะเชื่อว่าสามารถต้านไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ เราขายมากว่า 2 ปีราคาก็ถูกกว่าค่ายอื่นๆ ขณะเดียวกัน เรายังได้พัฒนาสินค้าพลูคาวชนิดแคปซูล เพิ่มประสิทธิภาพให้เข้มข้นเหนือกว่าชนิดน้ำนับสิบๆ เท่า แต่ราคาย่อมเยาใครๆ ก็ซื้อมารับประทานได้ เพื่อสร้างภูมิต้านทาน เพราะผมต้องการให้ประชาชนมีโอกาสเข้ามาทำอาชีพเครือข่ายแบบง่ายๆ และได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี เวลานี้ยอดขายถล่มทลายเพราะกระแสไข้หวัด 2009"
นอกจากนี้บริษัท เจริญโอสถฯ ยังมีปุ๋ย และอาหารเสริมพืชทุกชนิด ซึ่งสามารถเพิ่มผลผลิตได้ชัดเจน เราทำตลาดมาหลายปี กระแสตอบรับดีมาก เฉพาะยอดขายปุ๋ยในแต่ละปีก็หลายหมื่นตัน ที่สำคัญ บริษัทฯ ได้ส่งเสริมให้สมาชิกทำอาชีพเครือข่ายได้ง่ายขึ้น โดยใช้สื่อหนังสือพิมพ์ขายตรงเกือบทุกฉบับในการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และยังได้ใช้สื่อทีวีมากว่า 1 ปี ส่งผลให้มองเห็นช่องทางในการทำตลาดใหม่ๆ มากขึ้น

"ในช่วงเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป บริษัท เจริญโอสถฯ ได้ซื้อเวลาช่อง IN TV เพื่อออกอากาศวันละ 2 รอบ เวลา 05.00-06.00 น. และ 17.00-18.00 น. ทุกวัน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามาทำอาชีพเครือข่ายกับเจริญโอสถฯ มากขึ้น ภายใต้คนเซ็ปท์ "อาชีพที่เป็นไปได้ ทำง่ายที่สุด คือ รวยแล้วบอกต่อ" ผมเชื่อว่า ภาวะวิกฤติแบบนี้คนคงอยากจะฟังเรื่องรวยๆ วิธีการสร้างรายได้มากกว่าสิ่งอื่นใด หลังเปิดเกมรุกได้ไม่นาน ปัจจุบันมีสมาชิกใหม่ๆ หรือ บลู โอเชี่ยนเข้ามาทำอาชีพเครือข่ายกับเจริญโอสถฯเพิ่มมากขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา ยอดขายเพิ่มขึ้นเดือนละ 120-130 ล้านบาท จากกระแสตอบรับตรงนี้ จึงมั่นใจว่า เราเดินมาถูกทาง ผมเลยมุ่งสร้างอาชีพให้คนไทยมีรายได้ ผลักดันให้ผู้คนในสังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะอาชีพนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคน ใครๆ ก็เดินเข้ามาหาค้นหาความร่ำรวยได้อย่างเท่าเทียมกัน" ดร.สมชายกล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 255 ประจำวันที่ 16-31 สิงหาคม 2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น